วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วิธีเอา Flash Drive มาทำเป็น RAM บน Windows XP
เครดิต คุ้มดอทเน็ท ขออนุญาติก๊อปมาทั้งหมด เพื่อความรู้สำหรับผู้ที่กำลังหาวิธีเพิ่มแรม ขอขอบคุณมา ณ.ที่นี้ด้วย

ที่จริง feature นี้มีอยู่แล้วบน Windows Vista ที่เรียกว่า ReadyBoost แต่น่าเสียดายที่ฟีเจอร์นี้ไม่มีใน Windows XP ตามประสาสาวก Windows XP (เพราะไม่มีตังค์ Upgrade เครื่อง) มีคนแนะนำให้ใช้โปรแกรม XXX ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ใช้ Windows XP ใช้ Flash drive มาทำเป็น RAM ได้ 

วิธีทำให้หายไออยู่ในไฟล์

หน้าตาโปรแกรมเป็นแบบนี้ ซึ่งตอนแรกยังไม่ได้ทำ Cache Disk




ตัวโปรแกรมจะเรียกตัวเองผ่านเมนู startup และฝังตัวเองอยู่ใน system tray 


สำหรับ Flash memory ผมเลือกใช้ SD card ขนาด 2 GB ทำการ format ให้เรียบร้อย จากนั้นผมทำให้ flash disk เป็น NTFS แทนที่จะเป็น FAT หรือ FAT32 แบบของเดิม เพื่อให้มีการเข้าถึงข้อมูลได้เร็วขึ้น โดยใช้คำสั่ง 

Convert g: /FS:NTFS 


ในที่นี้ 'g:' เป็นชื่อ Drive ของผม ของท่านอื่นกรุณาเปลี่ยนตามความเป็นจริง) 

ทีนี้ก็จะได้ flash drive สำหรับทำ caching เรียบร้อย



ที่ตัวโปรแกรม คลิ้กที่ add จากนั้นเลือก flash drive ของเราที่เตรียมไว้แล้ว ซึ่งผมเลือกเต็มพื้นที่เลย จากนั้นคลิ้ก OK 



รอให้มันสร้าง cache ซักพักใหญ่ๆ ดูตัวเลขเปอร์เซ็นต์ที่สร้าง 



มื่อสร้างครบ 100% ก็จะขึ้น active ก็เสร็จเรียบร้อยครับ จากนั้ันย่อมันลงไปที่ system tray ซะ 



ลองทดสอบดูโดยการเรียกโปรแกรมหนักๆ พร้อมกันหลายๆตัว อย่างโปรแกรมจากค่าย Adobe ทั้งหลาย เช่น Acrobat pro หรือ Photoshop พบว่าลื่นขึ้นมากทีเดียว 

*** หมายเหตุ แน่นอนว่ามันอาจไม่เร็วขนาดที่เหมือนเพิ่ม Ram จริงๆ แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ Handy Drive คุณว่างๆจริงไหมครับ และหากจะถอด Handy Drive ออกก็สามารถถอดออกได้ทันที หากจะใช้ก็เสียบเข้าไปและเปิดโปรแกรมแค่นี้แหละครับ จบข่าว 

Credit : szpilman's blog

Posted on 01:49 by Unknown

No comments

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สอนวิธีหารายได้จากการโฆษณากับ Yengo แบบง่ายๆ ทำอย่างไร

 ติดหน่วยโฆษณาสร้างรายได้ออนไลน์กับ Yengo.com

   การสร้างรายได้ออนไลน์ผ่านเน็ทแบบที่เรียกว่า Contextual Advertising หรือภาษาไทยหน่อยก็เรียกการติดหน่วยโฆษณาออนไลน์ การสร้างรายได้ออนไลน์แบบนี้คุณจะต้องมีเว็บไซต์หรือบล็อกเป็นของตนเอง ถ้าเป็นเว็บไซต์ที่เน้นความสวยงาม

สรุปการสร้างรายได้ออนไลน์โดยวิธีนี้นั้น
1. เราต้องมีเว็บไซต์หรือบล็อกเป็นของตนเอง
2. เขียนเนื้อหาและบทความด้วยตนเอง โดยจะเขียนเรื่องอะไรก็ได้ครับ ในเรื่องที่ตนเองมีความรู้ ชอบและถนัด จะเขียนได้ดีครับ เนื้อหาจะไม่ซ้ำใครและก็เป็นผลดีต่อการทำอันดับในหน้าแรก ๆ ของ Google ด้วยครับ
3. ในบทความผมแนะนำ www.yengo.com ครับ เพิ่งจะมีในไทยเมื่อไม่นานมานี้เอง สมัครเป็นสมาชิกเพื่อร่วมสร้างรายได้ออนไลน์ได้ฟรีครับ ที่หน้าสมัครสมาชิก http://partner.yengo.com/th
4. เมื่อสมัครเป็นสมาชิกกับ yengo แล้วจะสามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบ เราสามารถนำเอาโค้ดหน่วยโฆษณานั้น ๆ มาแปะติดที่เว็บไซต์ของเราได้ เมื่อมีผู้เข้าชมเว็บของไซต์ แล้วเกิดสนใจในหน่วยโฆษณานั้น ๆ แล้วเกิดการคลิกดูโฆษณานั้น ๆ เราก็จะได้รายได้ครับ


จุดเด่นของ Yengo
1. เมื่อสมัครสมาชิกได้เงินรายได้สะสมในบัญชีทันทีเลย 50 บาท
2. สร้างรายได้ออนไลน์ได้ง่าย เพราะหน่วยโฆษณาน่าสนใจน่าคลิกมาก
3. จ่ายเงินขั้นต่ำที่ยอดรายได้ 300 บาทสำหรับ Paypal หรือ 10,000 บาท (ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงแล้วสามารถโอนขั้นต่ำตามต้องการ)  สำหรับการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ทุกวันที่ 10 ของเดือน
4. หากใครมีเว็บแนววาไรตี้ แบบ sanook kapook mthai การติดหน่วยโฆษณาออนไลน์ของ yengo น่าทำมากครับ เพราะหน่วยโฆษณาค่อนข้างจะเข้ากับเว็บแนวนี้ได้เป็นอย่างดี

Posted on 07:01 by Unknown

No comments

ทำเว็บทำบล็อกหารายได้กับ Yengo ก็มีรายได้


 

 
สำหรับบล็อกว่าจะดี แต่ถ้าเราสามารถสร้างรายได้ จากบล็อกที่เราได้สร้าง สำหรับวันนี้ที่ฉันต้องการจะแนะนำเว็บไซต์ของเราเพื่อลงทะเบียนและรับรหัสอย่างใกล้ชิด ไปยังบล็อกโดยในรหัสของเราแล้วโฆษณาจะแสดงหน้าเว็บที่เราติดกับรหัสทันทีและทุกครั้งที่บล็อกความคิดเห็นของผู้เข้าชมและคลิกเพื่ออ่านโฆษณาบนหน้าบล็อกของคุณฉันจะต้อง ทันทีที่เรา ราคาต่อคลิกขึ้นอยู่กับชนิดของการโฆษณา ตัวอย่างเช่นถ้าโฆษณาจะมีราคาแพงมากขึ้นต่อคลิกโฆษณาเป็นข่าว

รวม Yengo เว็บที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบล็อกได้ไม่เพียง แต่การชำระเงินขั้นต่ำหากการชำระเงินผ่านธนาคารออนไลน์, Paypal จะจ่ายขั้นต่ำ $ 300 ต่อการถอนตัว เงินหรือถ้าเราต้องการที่จะได้รับเงินผ่านบัญชีธนาคารชำระขั้นต่ำที่ 10,000 บาท

Posted on 07:00 by Unknown

No comments

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556



วิธีการทำ ตัวแสดงจำนวนบทความและคอมเม้นทั้งหมดของบล็อกเรานะครับ หรือใครจะเอาแค่อย่างใดอย่างนึงก็ได้เช่นกัน วิธีการนี้ก็เป็นอะไรที่สุดแสนจะง่ายอีกเช่นเคยครับ เราจะมาพึ่ง javascript ในชื่อว่า JSON กันครับ 
<script src="http://beginsign.blogspot.com/feeds/posts/default?alt=json-in-script&callback=numposts"></script><script src="http://beginsign.blogspot.com/feeds/comments/default?alt=json-in-script&callback=numcomments"></script>

ในส่วนนี้เป็น Code ที่เราจะเรียกใช้งานไปยัง javascript ที่ชื่อว่า JSON นะครับ หากใครต้องการแสดงแค่อย่างใดอย่างหนึ่งก็เลือกเอานะครับ แล้วอย่าลืมเปลี่ยน url ตรงสีแดงนะครับ 

<script style="text/javascript">function numposts(json) { document.write('This blog has ' + json.feed.openSearch$totalResults.$t + ' posts'); }function numcomments(json) { document.write(' and ' + json.feed.openSearch$totalResults.$t + ' Comments'); }</script>

แล้วก็ทำการสร้าง Gadget แบบ HTML/Javascript ขึ้นมาหนึ่งอันครับ แล้ว Copy Code ทั้ง 2อันนี้ไปวาง ก็เรียบร้อยแล้วครับ(หรือหากใครต้องการไปวางส่วนอื่นๆของบล็อกก็แทรก code ใน template เอาได้เลยครับ) 


ผมไปก่อนครับ 6 โมงเช้าพอดี ใครอยากให้เขียนวิธีปรับแต่งอะไร คอมเม้น ไว้ได้นะครับ

ที่มา...http://begindesign.blogspot.com/2009/09/blog-post.html

Posted on 01:55 by Unknown

No comments


สวัสดีครับ ไม่ได้อัพบทความซะนานเลยผม ไม่รู้ว่าหายกันไปหมดหรือยัง วันนี้ผมมีลูกเล่นอีก 1 อย่างมานำเสนอ ให้เพื่อนๆ ได้เอาไปใช้งานกัน นั้นก็คือ Slideshow ที่สร้างด้วย jQuery นั้นแหละครับ แต่ ! มันจะทำงานได้ก็ต่อเมื่อ เบราเซอร์ นั้นๆ รองรับ Javascript ด้วยนะครับ เอาหละครับ มาเรื่มกันเลยดีกว่า…
ก่อนอื่นเราต้องมาเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือกันก่อนนะครับ เนื่องจากว่าต้องใช้สคริป 2 ตัวที่ชื่อjquery.js และ s3Slider. js มาใช้งานร่วมกันด้วยครับ ดาวน์โหลดได้ที่นี้ครับ >>คลิก<< หรือหากต้องการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมก็หาอ่านได้จากที่นี้เลยครับ >>คลิก<< เสร็จแล้วก็มาเริ่มลงมือในบล็อกของเรากันครับ
1.เริ่มแรก หลังจาก Login แล้ว ให้ไปที่ รูปแบบ -> แก้ไข HTML และติ๊ก Checkbox ที่ ขยายแม่แบบเครื่องมือ (แล้วอย่าลืม Backup ธีมเก่าไว้ก่อนนะครับ กันพลาด คลิกที่ ดาวน์โหลดแม่แบบฉบับเต็ม)
2.นำ Code ด้านล่างไปวางไว้ในตำแหน่งก่อนที่จะปิด Tag &lt;/head&gt; นะครับ แล้วอย่าลืมแก้ตรงที่เป็นสีแดง ให้ชี้ไปยังต่ำแหน่งที่คุณเอาไฟล์ไปไว้ในโฮสนะครับ (หากใครไม่มีโฮสอ่านต่อด้านล่างนะครับ)
&lt;script src=' http://./jquery.js ' type='text/javascript'/&gt;         
&lt;script src=' http://./s3Slider.js ' type='text/javascript'/&gt;         
&lt;script type='text/javascript'&gt;         
//&lt;![CDATA[         
$(document).ready(function() {         
$('#slider1').s3Slider({         
timeOut: 5000         
});         
});         
//]]&gt;         
&lt;/script&gt;
2.1 สำหรับผู้ที่ไม่มีโฮสนะครับ ผมเห็นถามกันมาหลายคนจากบทความก่อนๆ หน้านี้ เราสามารถทำได้ง่ายๆ เลยนะครับ แต่ที่ไม่แนะนำ เพราะมันจะทำให้หน้า บล็อกของเราทำงานช้าครับ ถ้าให้ดีหาโฮสฟรีกมาใช้ก็ได้
วิธีทำสำหรับคนที่ไม่มีโฮสนะครับ ให้ทำการเปิดไฟล์ jquery.js และ s3Slider. js ด้วยอะไรก็ได้ครับ ตามถนัดเลย Notepad ก็ได้ แล้วทำการ Copy ข้อมูลทั้งหมดในนั้น *ทั้ง 2อัน มาวางทับตรงที่ผมเน้นสีแดงไว้ทั้งหมด  ผมเน้นแล้วนะครับว่าสีแดงทั้งหมด ตาม Code ด้านล่างเลยนะครับ
&lt;script type='text/javascript'&gt;      
//&lt;![CDATA[       
/* Copy ข้อมูลทั้งหมดมาวางที่นี้นะครับ */       
//]]&gt;       
&lt;/script&gt;       
&lt;script type='text/javascript'&gt;       
//&lt;![CDATA[       
$(document).ready(function() {       
$('#slider1').s3Slider({       
timeOut: 5000       
});       
});       
//]]&gt;       
&lt;/script&gt;
3.ทำการเพิ่ม CSS เข้าไปในส่วนของ CSS นะครับ แทรกตรงไหนก็ได้ ตรงที่ผมเน้นสีแดงเอาไว้ จะเป็นขนาดของ ความกว้าง และ ความสูงที่จะให้แสดงนะครับ เราก็ทำการแก้ไขซะเอาขนาดตามขนาดที่เราต้องการ
#slider1 {      
width:525px; /* To be same as image width */       
height:237px; /* To be same as image height */       
position: relative;       
overflow: hidden;       
border:1px solid #eee;       
margin:0 auto;       
} 

#slider1Content {      
width:525px; /* To be same as image width or wider */       
position: absolute;       
top: 0;       
list-style:none;       
margin:0;       
padding:0;       
}       
.slider1Image {       
float: left;       
position: relative;       
display: none;       
}       
.slider1Image span {       
position: absolute;       
font: 10px/15px Arial, Helvetica, sans-serif;       
padding: 10px 13px;       
width:550px;       
background-color: #000;       
filter: alpha(opacity=70);       
-moz-opacity: 0.7;       
-khtml-opacity: 0.7;       
opacity: 0.7;       
color: #fff;       
display: none;       
bottom:0;       
}       
.clear {       
clear: both;       
}       
.slider1Image span strong {       
font-size:14px;       
}
ตอนนี้เสร็จขั้นตอนในหน้าแก้ไข HTML แล้วครับ กด Save ได้เลยครับ แล้วไปต่อกันที่ องค์ประกอบของหน้า
4.มาที่ องค์ประกอบของหน้านะครับ แล้วเลือกเพิ่ม Gadget แบบ html/javascript ขึ้นมา 1อัน แล้วเอาวางไว้ด้านบน บทความบล็อก (หรือหากใครอยากไว้ตรงไหนก็ปรับแต่งตามใจชอบได้เลยครับ) แล้วนำ Code ด้านล่างนี้ไปวางนะครับ
&lt;div id=&quot;slider1&quot;&gt;      
&lt;ul id=&quot;slider1Content&quot;&gt; 

&lt;li class=&quot;slider1Image&quot;&gt;      
&lt;a href=' http://ลิ้งที่เราต้องการลิ้งไป '&gt;       
&lt;img alt=&quot;my image&quot; src=&quot; http://ลิ้งของรูปภาพที่ต้องการแสดง&quot;/&gt;       
&lt;/a&gt;       
&lt;span&gt;       
&lt;strong&gt; Title ที่จะให้แสดง &lt;/strong&gt;       
&lt;br/&gt;       
description ที่จะให้แสดง       
&lt;/span&gt;       
&lt;/li&gt; 

&lt;li class=&quot;slider1Image&quot;&gt;      
&lt;a href=' http://ลิ้งที่เราต้องการลิ้งไป '&gt;       
&lt;img alt=&quot;some image&quot; src=&quot; http://ลิ้งของรูปภาพที่ต้องการแสดง&quot;/&gt;       
&lt;/a&gt;       
&lt;span&gt;       
&lt;strong&gt; Title ที่จะให้แสดง &lt;/strong&gt;       
&lt;br/&gt;       
description ที่จะให้แสดง       
&lt;/span&gt;       
&lt;/li&gt; 

&lt;div class=&quot;clear slider1Image&quot;&gt;&lt;/div&gt;      
&lt;/ul&gt;       
&lt;/div&gt;
*หมายเหตุ Code ด้านบนเป็นเพียงตัวอย่างการแสดงแบบ 2 ภาพนะครับหากต้องการมากกว่านี้ ก็เพิ่มได้ครับ และหากต้องการ ปรับแต่งการแสดงผลแบบว่า ให้ Title กับ คำอธิบาย แสดงจากด้านบน หรือ ทางด้านข้าง ก็สามารถทำได้นะครับ ท่านสามารถศึกษาได้จากไฟล์ ที่ได้ดาวน์โหลดไป หรือ ศึกษาเพิ่มเติม>>คลิกที่นี้<< ครับ
วันนี้ไปก่อนหละครับ เหมือนเดิมนะครับ ใครอยากให้เขียนเรื่องอะไรก็ pm ทิ้งไว้ที่ TSB นะครับ เพราะผมก็ไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไร ><” เรื่องนี้ก็เพิ่งมีคนขอมาเช่นกัน ถึงได้ฤกษ์มาเขียน

Posted on 01:53 by Unknown

No comments

การเปลี่ยน blogspot เป็น .com
…การเปลี่ยน blogspot ซึ่งเป็นชื่อย่อ ในกรณีที่เราเขียน blog กับ blogger.com ข้อดีคือ เราไม่ต้องเช่าโฮส เราก็สามารถมีเว็บ .com ได้ เราเสียแค่เพียง ค่าชื่อโดเมนรายปีเท่านั้น ซึ่งปกติจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 ร้อยบาท/ปี ขึ้นกับเว็บบริการที่รับจดโดเมน
…ซึ่งการเปลี่ยน blogspot เป็น .com นั้น พอเปลี่ยนแล้ว กรณีชื่อเดิม เช่น abc.blogspot.com ก็สามารถเข้าได้ คือเข้าแล้ว จะมาที่ www.ชื่อใหม่ที่เราขอดอทคอม(หรือดอทอะไรก็แล้วแต่).com sub domain ต่างๆ ก็จะใช้ได้ปกติ เช่น abc.blogspot.com/a123/bb.html เข้าแล้วก็จะมาเป็น www.ชื่อใหม่ที่เราขอดอทคอม(หรือดอทอะไรก็แล้วแต่).com/a123/bb.html ข้อมูลเหมือนเดิมตามปกติ
…ขั้นตอน ไปขอจด .com มาก่อนนะครับ กับเว็บบริการต่างๆ มีมากมาย พอเรามี .com แล้วมาดูตามนี้ครับ
…ขั้นตอนวิธีการ แต่ละการเซ็ตค่าของผู้ให้บริการต่างๆ จะต่างกัน แต่เหมือนกันในหลักการนะครับ
เข้าดูหลักการต่างๆได้จากลิ้งค์ล่างนี้เลยครับ
ตัวอย่างเว็บที่ทำจาก blogger แล้ว เปลี่ยนชื่อจาก .blogspot.com เป็น .com
คลิกแล้วจะไป ชื่อเดียวคือ .com ครับ

Posted on 01:51 by Unknown

No comments

WunJun.com


Join and Follow Community



สร้างและเข้าร่วมชุมชน



   Wunjun Group

       
  •              
             สมัคร 1 User เล่นได้ทุกกลุ่ม
       
  •    
  •              
             มีระบบ Real time notification แจ้งเตือนรวดเร็ว
       
  •    
  •              
             เปลี่ยน Theme
       
  •    
  •              
             ปรับแต่งรูปประจำกลุ่มได้
       
  •    
  •              
             โพสกระทู้ง่าย ด้วย Advanced Editor
       

http://group.wunjun.com/ 

power by
http://wunjun.com/ 

Posted on 01:40 by Unknown

No comments

เทคนิคการทำ SEO ที่ไม่เหมือนใคร         การทำ SEO มีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่าวิธีไหนเป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งผมได้ทดลองมาแล้วหลายวิธีเหมือนกัน มีทั้งได้ผลบ้างและไม่ได้ผล ขึ้นอยู่กับ่ว่าเรามีความขยันหมั่นเพียรแค่ไหน เคยมีหลายคนบอกว่าอ่านอย่างเดียวแล้วไม่ทำมันจะได้ผลอะไร ฉนั้นต้องลงมือทำถึงจะรู้ว่าสิ่งที่เราำทำมันได้ผลจริงหรือไม่ แต่บางคนบอกว่าอ่านก่อนลงมือดีกว่าไม่อยากเสียเวลา ความคิดส่วนตัวของผม ผมคิดว่าไม่มี เทพ SEO คนไหน ทุบหม้อข้าวตัวเองหรอก ในตำราต่างอาจจะบอกเทคนิคเราก็จริง แต่ผมว่าบอกไม่หมดหรอก ฉนั้นเราก็ต้องใช้วิธีอ่านบ้าง ทำบ้าง คละเคล้ากันไป จะประสบผลสำเร็จหรือไม่นั้น มันก็ขึ้นอยู่กับดวงด้วยส่วนหนึ่ง ความรู้ ความขยัน ความพยายาม ความอดทนด้วยส่วนนึ่ง
         เทคนิคของผมไม่มีอะไรมากแค่ผมใช้เวลาไม่ถึง 3 วันผมสามารถทำให้เว็บผมติดอันดับในคีย์ต่างๆได้ ความเชื่อเรื่อง bot แรงของเว็บที่มี PR นั้นเป็นความจริง โดยเคล็ดลับของผม ผมทำตามลำดับขั้นดังนี้
         1. ทำเว็บไซต์ให้มีความยืดหยุ่น เน้นความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด
         2. โปรโมทเว็บไซต์ด้วยการทำยังไงก็ได้ให้มีข้อมูลบนเว็บไซต์ของเรา
         3. หาที่ฝาก backlink โดยเว็บไซต์นั้นต้องมี PR และ มี bot ชุม เพื่อให้เว็บเรามีอันดับไวๆ สมมุติว่าเราต้องการทำคีย์ add url ให้ติดอันดับการค้นหาใน search engine เราก็ทำลิงค์ add url         4. หา backlink เพิ่มเติมด้วยการไปโพสต์บนเว็บลงประกาศฟรี โดยการเขียนบทความเกี่ยวกับเว็บไซต์ของเรา แล้วทำลิงค์เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา (เหมือนในข้อ 3) การเลือกเว็บไซต์ลงประกาศฟรีนั้นควรเลื่อกเว็บไซต์ที่มี PR สูง ลิงค์ออกเป็น Do follow และมี Index เยอะ การที่เว็บมี Index เยอะๆหมายความว่าเว็บนั้นๆ มี bot วิ่งเป็นจำนวนมาก วิธีการลงประกาศตามอ่านได้ที่ http://addurl-website.blogspot.com/2013/04/seo_2.html 
         5. หาเว็บ Social bookmark เพื่อทำการ add url เป็นการทำ SEO อีกวีธีนึ่ง ตามอ่านได้ที่ http://addurlforseo.wordpress.com/2013/04/03/ การ-add-url-เพื่อทำ-seo/
         6. การ add url หรือ submit เว็บไซต์ใน search  engine ตามอ่านได้ที่ http://addurlforseo.wordpress.com/2013/04/03/ การ-add-url-หรือ-submit-เว็บไซต์-ใน-search-engine/
         7. จากนั้นรอดูผลลัพธ์ 3-7 วัน ถ้าไม่ได้ผล ทำข้อ 4 ทุกๆวัน


ที่มา...http://htmlthai.com/index.php?PHPSESSID=25q4a6857sehschh50ghtcr3j5&topic=2656.msg10446;topicseen#new

Posted on 01:39 by Unknown

No comments

วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รูปแบบการสร้างรายได้จากการให้บริการต่างๆ ผ่านเว็บไซต์
  • การเก็บค่าสมาชิก (Member Fee)
      การเก็บค่าสมาชิกถือเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถเก็บได้จากผู้ที่เข้ามาใช้บริการภายในเว็บไซต์ โดยการเป็นสมาชิกจะสามารถได้สิทธิพิเศษเหนือกว่าคนทั่วไป หรือ เป็นบริการสำหรับสมาชิกเท่านั้น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นสิ่งที่สมาชิกจะได้ต้องมีความน่าสนใจพอที่ให้คนทั่วไปจะสมัครสมาชิก และจ่ายเงินให้กับเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ www.BenzUser.com เป็นเว็บไซต์สำหรับคนรักรถเบนซ์ โดยสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สมัครสมาชิกจะ สามารถเข้าชมเว็บบอร์ดของสมาชิก และสามารถปรึกษาสอบถามเรื่องรถเบนซ์ได้อย่างละเอียด, มี Sticker ชื่อเว็บไซต์ไว้ติดรถ, รับสิทธิ์ร่วมกิจกรรมของกลุ่ม Member ตลอดปี, ได้รับส่วนลดการทำประกันภัยราคาพิเศษ
  • การให้บริการพิเศษที่ดีกว่าปกติ (Additional Service)
        บางเว็บไซต์อาจจะมีการให้บริการปกติอยู่แล้ว คุณสามารถเพิ่มบริการบางอย่างให้ดีกว่าเดิม และเก็บค่าบริการจากบริการพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการยินดีจ่ายกับสิ่งที่ดีขึ้นกว่าปกติ ยกตัวอย่างเช่น
    • เว็บไซต์ www.ThaiMisc.com เว็บไซต์ให้บริการฟรีเว็บบอร์ด ที่คุณสามารถเปิดเว็บบอร์ดของคุณเองได้ทันที โดยสามารถสมัครใช้บริการได้ฟรี.! แต่สำหรับท่านที่ต้องการเว็บบอร์ดที่มีความสามารถนอกเหนือจากเว็บบอร์ดแบบฟรี สามารถสมัครเว็บบอร์ดแบบ VIP ซึ่งเว็บบอร์ดแบบ VIP จะมีความสามารถพิเศษเพิ่มจากเว็บบอร์ดแบบฟรี.! ได้แก่ เว็บบอร์ดของคุณจะได้พื้นที่ในการเก็บรูปภาพมากขึ้น, ไม่มีแบนเนอร์โฆษณาในเว็บบอร์ดของคุณ (ของฟรี จะมีโฆษณาแสดงอยู่), มีระบบ Backup เก็บข้อมูลภายในเว็บบอร์ดของคุณไว้ให้ตลอด นี้เป็นส่วนหนึ่งที่เว็บบอร์ดแบบ VIP ที่มีความแตกต่างจากเว็บบอร์ดแบบฟรี.! ซึ่งมีหลายๆ คนให้ความสนใจสมัครใช้บริการ
    • เว็บไซต์ www.KeepAlbum.com เว็บไซต์ให้คุณสามารถสร้าง อัลบัมรูปภาพออนไลน์ของคุณได้ฟรี.! แต่หากสมัครเป็น Gold อัลบัม จะมีบริการพิเศษเพิ่มเติมมากมาย เช่น สร้างอัลบัมออนไลน์ได้ไม่จำกัด, ใส่เพลงประกอบอัลบัม, ไม่มีแบนเนอร์โฆษณาในหน้าอัลบัม, สามารถนำรูปภาพไปใช้ที่เว็บอื่นได้ เป็นต้น โดยการ Gold อัลบัมจะมีค่าใช้จ่ายในการสมัคร
     ซึ่งหากดูรูปแบบการให้บริการของทั้ง 2 เว็บไซต์ที่ผมได้ยกตัวอย่าง นั้นสามารถสร้างรายได้จากการให้บริการพิเศษ ที่ดีกว่าปกติแก่ผู้ใช้บริการ นอกเหนือจากบริการฟรีที่มีอยู่ภายในเว็บไซต์ ซี่งบริการฟรี เป็นเหมือนกับ สิ่งที่ให้ผู้ใช้ได้ลองใช้ ซึ่งหากลองแล้วเกิดติดใจ หรือชื่นชอบ ก็สามารถสมัครใช้บริการที่ดีกว่าได้ ทันที สำหรับเทคนิคการตั้งราคาค่าบริการ คุณอาจจะตั้งราคาที่ไม่แพงมาก เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ที่จะมาใช้บริการของเว็บไซต์คุณ ซึ่งหากราคาไม่แพงแต่จำนวนผู้ใช้บริการมาก (Volume) คุณก็สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็น กำจากการให้บริการได้เช่นกัน
  • การให้เช่าใช้บริการแอพพลิเคชั่น (Application Service Provider, ASP)
       บางครั้งเว็บไซต์ของคุณสามารถให้บริการเช่าใช้แอพพลิเคชั่นได้ โดยรูปแบบการให้บริการ จะเป็นการให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาใช้บริการแอพพลิเคชั่นของคุณได้โดยผ่านอินเทอร์เน็ต โดยแอพพลิเคชั่นจะต้องเป็นรุปแบบของเว็บไซต์ (Web Base) โดยรูปแบบสามารถชำระค่าบริการเป็นรายเดือนไป โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อหรือพัฒนาแอพพลิเคชั่นทั้งหมดในราคาแพงๆ ไปลงที่บริษัท แต่เป็นการเช่าใช้แอพพลิเคชั่นในแต่ละเดือนๆ ไป ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเช่าใช้จะถูกกว่ากว่าลงทุนซื้อหรือพัฒนาเองทั้งหมด ซึ่งรูปแบบของแอพพลิเคชั่นที่นิยมให้บริการเช่าใช้ส่วนใหญ่ในตลาดมีหลายรูปแบบ เช่น ระบบ E-mail, ระบบ E-Commerce, ระบบบัญชี, ระบบ ERP และ ระบบ CRM เป็นต้น
    ยกตัวอย่างเช่นระบบ E-Commerce ของเว็บไซต์ www.TARAD.com เป็นรูปแบบของบริการที่ให้เช่าใช้บริการเว็บไซต์ E-Commerce สำเร็จรูปฟรี.! โดยเว็บไซต์ฟรี และเสียเงิน โดยผู้ที่สนใจไม่จำเป็นต้องไปซื้อแอพพลิชั่นหรือเสียค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้เสียเวลาเพราะสามารถ เช่าใช้เป็นรายเดือน และสามารถเปิดบริการได้ทันที
  • การขอแรงสนับสนุนหรือบริจาค
       วิธีสุดท้ายเป็นอาจจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเว็บไซต์ของคุณ โดยเป็นวิธีที่เรียกว่าการขอแรงสนับสนุนหรือความเห็นใจ จากผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ ซึ่งบางครั้งผู้ที่เข้ามาใช้บริการในเว็บไซต์ของคุณอาจจะได้ประโยชน์จากการใช้เว็บไซต์ของคุณมากมาย และมีความต้องการที่จะช่วยเหลือเว็บไซต์ของคุณ แต่ความรู้สึกเหล่านั้นเก็บอยู่ภายในใจของผู้ใช้บริการ และมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นวิธีการ แจ้งถึงการร่วมสนับสนุนเว็บไซต์ของคุณ ดยการแจ้งวิธีการสนับสนุน ซึ่งอาจจะเป็นการ ช่วยสนับสนุนโครงการด้วยเงิน หรือ สนับสนุนด้วยรูปแบบอื่นๆ อาจจะช่วยทำให้เว็บไซต์คุณสามารถมีรายได้หรือความช่วยเหลือจากผู้ใช้บริการเว็บไซต์ของคุณก็ได้ (ลองเอาไปใช้ดูครับ ผมลองมาแล้ว และก็มีหลายๆ ท่านให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีครับ)

Posted on 04:15 by Unknown

No comments

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

- สมัคร Google AdSense -

. . เมื่อมาถึงที่หน้าสมัคร ให้คลิกที่ปุ่ม Sign up now >> แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ Google กำหนด


กรอกข้อมูลการสมัคร เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

Website URL: [?]ใส่ชื่อเว็บของคุณ ตัวอย่าง : www.thaiadsense.info
  
Website language:เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น : English - English
  
 
  
Account type: [?]เลือกประเภทของเว็บคุณ
- เป็น บุคคลธรรมดา : Individual
- เป็น องค์กรธุรกิจ/บริษัท : Business
  
Country or territory:อยู่ในประเทศเลือก : ประเทศไทย
  
 
  
Payee name:
(full name)
ชื่อผู้รับเงิน
คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับเงิน และประเทศได้
ขณะกรอกข้อมูลตรวจสอบว่าถูกต้อง หรือไม่
  
Address line 1:เลขที่ตั้ง ซอย ถนน
  
Address line 2 (optional):แขวง / ตำบล
  
City:เขต / อำเภอ
  
State, province or region:จังหวัด
  
Zip or postal code:รหัสไปรณีย์
  
Phone:หมายเลขโทรศัพท์
เช่น 02-666-8888 ต้องกรอกเป็น 6626668888
หรือ 089-444-8888 ต้องกรอกเป็น 66894448888
  
Fax (optional):หมายเลขโทรสาร
  
Email preference:ให้ทำเครื่องหมายถูก
ทาง Google จะส่งข้อมูลข่าวสาร รวมถึงทิปต่างๆ ถึงคุณ
  
 
  
Product(s): [?]ให้ทำเครื่องหมายถูก ทั้ง 2 อัน
- AdSense for Content
- AdSense for Search
  
 
  
Policiesให้ทำเครื่องหมายถูก ทุกอัน
นี่คือ.. ข้อตกลงระหว่าง คุณ กับ Google เกี่ยวกับ..
- จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง ให้คนอื่นคลิก
- ไม่วางโฆษณาในบริเวณกระตุ้นการคลิก เช่น Download
- ยินยอมที่จะให้สั่งจ่ายเช็คตามผู้รับด้านบน
- ไม่วางโฆษณาในเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ลามกอนาจาร เป็นต้น
- คุณได้อ่านตามข้อกำหนดใน Adsense Program Policy แล้ว
  
เมื่อกรอกข้อมูลแล้ว ให้คลิกที่.. Submit Information
ในหน้าถัดมา ให้กรอก อีเมล์ของคุณ มี 2 ตัวเลือก 1. เคยใช้บริการของ Google แล้ว 2. ไม่เคย
  
Email address:ใส่อีเมล์ของคุณ
  
Password:กำหนด รหัสผ่าน ของคุณ (7 ตัว หรือ มากกว่านั้น)
Re-enter password:กำหนด รหัสผ่าน ของคุณอีกครั้ง
  
เมื่อกรอกข้อมูลการสมัครเรียบร้อย ให้คลิกที่.. Submit Information
หมายเหตุ ข้อมูลที่กรอกจะต้องเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

. . . เมื่อสมัครไปเรียบร้อย ให้ไปเช็คอีเมล์ ที่คุณใช้สมัคร เพื่อยืนยันการสมัคร Google AdSense โดยในอีเมล์จะมีข้อความถึงคุณ ดังนี้...

ให้คลิกที่ Link ในอีเมล์ เพื่อเป็นการยืนยันการสมัคร
Hello
Welcome to Google AdSense. In order to verify your email address and
submit your information for review, please click on the link below.

https://www.google.com/adsense/c?u=44362542&k=0x35569154 << คลิกที่นี่
This link will take you directly to an email confirmation page. If it
does not, please copy and paste the full URL into your web browser's
address box and hit the "Enter" key on your keyboard. Once you confirm
your email, we'll review your application and email you after we check
your site for AdSense eligibility. If you're accepted, you'll then be
able to log in to your account at https://www.google.com/adsense, or through the application or service from
which you originally registered. Please use the email address and password you
submitted with your application.

Until your site has been reviewed and approved, you will see public service ads
(for which you will not receive earnings) displayed on your site. Once your
application is approved, Google ads will begin appearing automatically.

Sincerely,
The Google AdSense Team
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

. . . หลังจากยืนยันอีเมล์ไปแล้ว ก็รอผลการสมัคร ประมาณ 1 - 2 วัน ทาง Google จะส่งผลการสมัครมาทางอีเมล์

ถ้าผลการสมัครผ่านแล้ว จะได้รับข้อความ ดังนี้...
Congratulations!Your Google AdSense application has been approved. You can now
activate your account and start delivering Google ads on your site in
minutes.
STEP 1: Activate your account.
Please visit https://www.google.com/adsense?hl=en_US . Log in to your
account using the email address and password that you submitted with
your application, and agree to the AdSense Terms and Conditions.
STEP 2: Paste the AdSense ad code into your web pages.
Just follow the instructions on the "Ad layout code" page to copy-and-
paste the ad code into your site and begin running Google ads.
STEP 3: See the results.
After your ads start running, you can see your earnings at any time by
checking the online reports in your account. Please note that you
might not maximize your earnings from AdSense if you have any of the
following on your website:
* robots.txt
* frames
* forms and dynamic content
* excessive images
* login and password requirements
For more technical guidelines and tips on optimizing your site for
this program, please visit:
https://www.google.com/adsense/faq-tech?hl=en_US
IMPORTANT NOTES:
* If Google has not yet crawled your site, you may not be able to see
relevant ads for a few hours. You may see public service ads (for
which you will not receive any earnings) displayed in the meantime.
* Website publishers, or a third party enlisted by the publisher, may
not, manually or through a robot, generate fraudulent clicks (click
spamming). Clicking on ads on your own site will violate this policy,
so please do not click on the ads for any reason. We monitor all
AdSense activity and disable the account of any publisher violating
this policy. For more information, please review the Google AdSense
Terms and Conditions at:
https://www.google.com/adsense/localized-terms?hl=en_US
QUESTIONS?
Feel free to contact us at adsense-support@google.com at any time.
(For technical support, please send an email to adsense-
tech@google.com.)
Welcome to Google AdSense. We look forward to helping you unleash the
full potential of your website.
Sincerely,
The Google Team
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

. . . หลังจากสมัครผ่านแล้ว ให้ทำการ Login เข้าไปที่... https://www.google.com/adsense/
เมื่อเข้า Login คร้งแรกจะปรากฎหน้าอธิบายเกี่ยวกับข้อกำหนดของการใช้ Google AdSense ให้คุณคลิกยอมรับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ขั้นตอนการกรอกข้อมูลภาษี เมื่อรายได้ครบ $10

. . . ให้ยืนยันข้อมูลทางภาษี...

- คลิกที่ หัวข้อ My Account 

- คลิกหัวข้อย่อย Tax Information และให้ทำเครื่องหมายที่วงกลม เลือก No และ กดปุ่ม Continue 

- หน้าถัดมา Do you have U.S. Activities related to you participation in AdSense? ให้เลือก No และ กดปุ่ม Continue

- หน้าถัดมา Do you have employees in the U.S. related to your participation in AdSense? ให้เลือก No และ กดปุ่ม Continue

- หน้าถัดมา ให้ใส่ชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ ใน Signature of Publisher ........... และนี่ถือว่าเป็นลายเซ้นต์ของคุณ และ กดปุ่ม Submit information 

เพียงเท่านี้ ก็ถือว่าได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ขั้นตอนการกรอกข้อมูลการรับรายได้

. . . หลังจากนั้น ให้เลือกการรับเงินรายได้...

- คลิกที่ หัวข้อ My Account
- คลิกหัวข้อย่อย Payment History 

- คลิกที่ Please select or verify a form of payment

- ให้ทำเครื่องหมาย ที่วงกลม : Check - Standard Delivery และ กดปุ่ม Continue 

- ในหน้าถัดมา ถ้าต้องการรับรายได้ให้เป็นเงินบาทก็สามารถเลือกสกุลเงินที่ต้องการ ให้เลือก Thai Baht (THB) และ กดปุ่ม Save change
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ขั้นตอนในกรอก PIN เมื่อมีรายได้ครบ $10

. . . และถ้าเมื่อไหร่ เมื่อคุณสร้างรายได้จนยอดถึง $10 ทาง Google จะส่งจดหมายมาทางไปรษณีย์มาตามที่อยู่ของคุณ เพื่อยืนยันการมีตัวตนของคุณ ในจดหมายจะมีรหัส Your PIN: ตัวเลข

. . . ให้ไปที่เว็บไซต์ Google AdSense แล้วไปที่...

- หลังจาก Login เข้าระบบจะเห็นข้อความ
You payments are currently on hold. Action is required to release payment Click here for details ให้คลิกที่ Click here for details

- ที่ Required Action ให้คลิกที่ Please enter your PIN

- ใส่หมายเลข PIN ของคุณ แล้วคลิก Submit PIN
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เพียงเท่านี้ เมื่อคุณมีรายได้เกิน $100 ก็หมายถึง คุณกำลังจะได้รับรายได้แล้วครับ แล้วจะได้รับเช็ค โดยมีรายละเอียดดังนี้...
ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน มกราคม คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน มีนาคม

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน กุมภาพันธ์ คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน เมษายน

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน มีนาคม คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน พฤษภาคม

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือนเ มษายน คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน มิถุนายน

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน พฤษภาคม คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน กรกฎาคม

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน มิถุนายน คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน สิงหาคม

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน กรกฎาคม คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน กันยายน

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน สิงหาคม คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน ตุลาคม

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน กันยายน คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน พฤศจิกายน

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน ตุลาคม คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน ธันวาคม

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน พฤศจิกายน คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน มกราคม 

ถ้าคุณมีรายได้ครบ $100 ในเดือน ธันวาคม คุณจะได้รับเช็ค ประมาณต้นเดือน กุมภาพันธ์

Posted on 02:50 by Unknown

No comments

สวัสดีครับ 

 จากบทความแรก เขียนเกี่ยวกับ ตำแหน่งการวางโฆษณา Adsense และบทความที่ 2 กลยุทธ์แนวทางการทำเว็บไทย ผมกลับมาดูอีกครั้ง รู้สึกดีใจมากครับ ที่เขียนมาแล้ว บทความตนเองมีประโยชน์ เพื่อนๆหลายท่าน บอกว่า ได้แรงบันดาลใจเพิ่มขึ้น ไอเดียเพิ่มขึ้น เห็นคอมเม้นแบบนี้ ผมถึงกับยิ้มแก้มปริ ความรู้สึกแบบนี้ มันคือกำไรชีวิตที่มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ครับ สำหรับการทำเว็บสไตล์ผม ผมไม่ได้เน้นเรื่องการทำเงินเป็นหลัก บางครั้งผมคิดว่า ผมเขียนบทความมา 1 บทความ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง หากมีคนเปิดดูหน้าเพจดังกล่าวสัก 1000 คน ผมก็ถือว่า คุ้มแล้วหละ คนได้รับประโยชน์ไปตั้ง 1000 คนแหนะ อย่างน้อยๆ น่าจะมีสักคนสองคน ที่นำความคิดของเราไปต่อยอดได้ หรือผมก็อาจช่วยทำให้คนไทย รักการอ่านมากยิ่งขึ้น ทำงานต้องทำด้วยใจก่อนเป็นที่ตั้งก่อนเสมอ อีกหน่อย เรื่องเงินมันก็มาเองครับ ใจเย็นๆ...

 เอาหละครับ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า บ่อยครั้งที่ผมเห็นการโพสถามเรื่องสมัคร Adsense หลายๆ รอบแล้วไม่ผ่านกันสักที ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณผู้มีพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ผมเรียกเขาว่า พี่เก็ท Get Alert หลายๆท่านคงจะรู้จัก ขอบคุณที่ชี้นำผมมาหารายได้พิเศษกับ Adsense อันที่จริง ก็รุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ผมนับถือเป็นพี่ไปแล้วละ ตอนสมัยเรียน ทำโปรเจคจบ Google Maps API ก็ได้พี่เก็ทเป็นที่ปรึกษาจนเรียนจบ แถมเข้ารอบชิง NSC ด้วยนะ (แอบโม้) สังคมออนไลน์ ยังมีคนดีๆ อีกเยอะครับ ผมไม่ได้รู้จักพี่เก็ทมาก่อน ก็มารู้จักกันในเว็บ ThaiSEOBoard นี่หละครับ อีกคนหนึ่ง พี่เต้ รู้จักกันมาก่อนใน MSN เพิ่งมารู้ทีหลังว่าทำ IM ด้วย ก็ได้ปรึกษาไปพอสมควร เพิ่งเจอตัวจริงกันเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ด้วยความบังเอิญ

 เอาหละครับ เข้าเรื่องจริงๆละ การสมัคร Adsense ส่วนตัวแล้ว มองว่าไม่ยากนัก หากเราตั้งใจจะทำจริงๆ ตอนผมสมัครปีก่อน ผมใช้ Flixya.com ในการสมัคร ตอนนั้นผมก็ไม่ทราบ ว่าเนื้อหาเว็บไทยก็สมัครได้ด้วย นั่งแปลภาษาอังกฤษอยู่นานมาก ผมเขียนไปประมาณ 10 บทความภาษาอังกฤษ ทำเองหมดทุกอย่าง บทความและภาพ ถ่ายเองหมดครับ ยกเว้น คลิปวิดีโอ ใช้จาก Youtube โดยเลือกใช้คลิปวิดีโอที่อนุญาติให้เผยแพร่ต่อได้ ซึ่งจะมีสัญลักษณ์ ลิขสิทธิ์ (©) หมายถึง "สิทธิแต่ผู้เดียวที่กฎหมายรับรองให้ผู้สร้างสรรค์กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ตนได้ทำขึ้น อันได้แก่ สิทธิที่จะทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำออกโฆษณา ไม่ว่าในรูปลักษณะอย่างใดหรือวิธีใด รวมทั้งอนุญาตให้ผู้อื่นนำงานนั้นไปทำเช่นว่านั้นด้วย" ทั้งนี้ คุณต้องมั่นใจว่า ผู้อัพโหลดเป็นต้นฉบับจริงๆด้วยนะครับ หลังจากนั้นก็สมัคร Adsense และอัพต่อทุกวันจนกว่าสมัครผ่าน ใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็ผ่านเรียบร้อยครับ รวมแล้วไม่ถึง 20 Post นะ แต่นี่ คือปีก่อน ปีนี้อาจเปลี่ยนไป

 สำหรับในช่วงนี้ ผมคิดเอาเองว่า Google Adsense เริ่มจับทางเว็บมาสเตอร์ไทยได้ นั่นคือ สร้าง Blog มาเพื่อสมัคร Adsense โดยเฉพาะ เมื่อสมัครผ่าน ก็ไปทำเว็บอื่นต่างหาก ซึ่งแน่นอนว่า คุณสามารถนำโค้ดไปติดได้เลยทันที ไม่ต้องรอให้ Google มาตรวจใหม่อีกครั้ง และเว็บดังกล่าว อาจไม่ตรงกับนโยบายของ Google Adsense ก็เป็นไปได้ สิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังนั่นก็คือ การถูกแบนโฆษณา แบนโดเมน หรือเลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ แบน ID ซึ่งผมเองก็ถูกแบนเว็บไซต์มาก่อนถึง 2 เว็บด้วยกัน โชคดีที่ยังมี ID ให้ได้ใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้ ในส่วนนี้ เป็นเพียงการเล่าประสบการณ์ในการสมัครของผมเอง ซึ่งเป็นแบบเก่า ไม่แนะนำให้ทำกันแล้ว สำหรับแบบที่จะแนะนำนี้ จากประสบการณ์จริงเช่นกัน เพราะผมได้แนะนำวิธีดังกล่าวนี้ ให้เพื่อนๆ น้องๆ ที่อยากหารายได้พิเศษ และก็สมัครผ่านเรียบร้อย อาจเหมาะกับมือใหม่ ที่ต้องการทำเว็บไม่เยอะ อาจแค่เว็บสองเว็บนะครับ

1. หาแนวทางของเนื้อหา - สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่คุณต้องมีก่อน ต้องคิดให้ได้ว่าต้องการทำเว็บอะไร ควรอ่านนโยบาย Adsense อย่างรอบคอบ ว่าเนื้อหาของเรานั้น อาจมีส่วนผิดกฏระเบียบหรือไม่ ถ้ามีแนวโน้มหรือจุดเสี่ยงที่จะผิด ก็อย่าไปยุ่งดีกว่าครับ เอาแบบที่ทำแล้วสบายใจ หากให้ดี ผมก็ยังคงยึดแนวทางเดิม นั่นคือ ให้ทำในสิ่งที่ตนเองชอบก่อน หากเราทำในสิ่งที่ชอบ ข้อดีที่หาไม่ได้นั่นคือ เราจะไม่เบื่อกับสิ่งๆ นี้ และแน่นอนว่า เราอาจมีข้อมูลเดิมอยู่แล้วมากมาย เพียงแค่ใช้นิ้วระบายความในใจลงแป้นพิมพ์ ก็อาจจะเป็นบทความดีๆ ถูกใจใครหลายๆคนก็เป็นไปได้ครับ ส่วนจะเป็นไทยหรืออังกฤษ อันนี้ก็แล้วแต่ความสามารถเลยครับ เนื้อหาไทย ก็สมัคร Adsense ได้ครับ ทั้งนี้ ความชอบมิได้หมายถึงว่า ชอบดูหนังแล้วไปอัพคลิปวิดีโอนะครับ ผิดกฏแน่นอนสำหรับเว็บแนว ดูคลิป ดูทีวี

2. ตั้งชื่อเว็บไซต์ - ใช่แล้วครับ ต้องเว็บไซต์ อย่างที่ผมเกริ่นนำมา ผมคิดเอาเองนะ ว่า Google Adsense อาจมองถึงความมั่นคงของเราด้วย การทำบล๊อกปัจจุบันมันดูง่ายเกินไป จะทำเมื่อไหร่ก็ได้ จะเลิกทำก็ไม่เสียดาย แต่ทั้งนี้ ก็เป็นเพียงแค่สมมุติฐาน ผมเดาเอาเองเท่านั้น หากมองลึกลงไปกว่านั้นแล้ว เมื่อคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง มีการลงทุนเกิดขึ้น โดเมน+โฮส โดยรวมแล้วก็ประมาณ 1000 บาท เชื่อไหม สิ่งนี้มันมีผลทางด้านจิตวิทยาเล็กน้อย เพราะการลงทุนจะทำให้เราเสียดาย และพร้อมที่จะตั้งหน้า ตั้งตาลุยมันให้ถึงที่สุด แต่หากเป็น blog อาจจะละทิ้งไปเฉยๆ เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่เพียงแค่นี้ การจดทะเบียนเป็นเว็บไซต์ มันยังจัดการกับสคริปต์ได้ง่ายกว่าเยอะเลยครับ ยิ่งมีอายุก็ยิ่งมีราคา แน่นอนว่า หากคุณทำไปนานๆเข้า เบื่อเมื่อไหร่ มันขายได้ มันมีมูคค่าทางทรัพย์สินไปแล้วหละครับ กลับกัน หากเป็น blog คุณอาจถูกเตะทิ้งเมื่อไหร่ ก็ไม่อาจคาดเดาได้ และ มันขายยากมากครับ ลงทุนแค่พันเดียว ผมว่า หายากนะ อาชีพที่ลงทุนน้อยๆ แต่ได้เงินคืนนับไม่ถ้วนแบบนี้ แค่พันเดียว เดือนแรกก็ได้คืนหมดแล้วครับ

3. หาสคริปต์+โฮส - ตรงส่วนนี้ ผมไม่มีอะไรจะแนะนำมาก เพราะโดยส่วนตัวก็ไม่เก่งเรื่องสคริปต์เลยครับ ก็เลือกเอาตามที่ชอบแล้วกันครับ ให้ดูสะอาดตาเข้าไว้ Google Adsense ไม่เหมาะนักกับเว็บรกๆ อาจผิดนโยบายอีกด้วย ในบอร์ดไทยเสียวก็มีสคริปต์สวยๆ ขายกันเยอะแยะเลย ช่วยๆกันอุดหนุนครับ โฮสติ้งก็เช่นกัน แรกๆ ไม่ต้องคิดถึง VPS หรือเซิฟเวอร์ส่วนตัวหรอกครับ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป หลายๆท่าน มีเป้าหมายที่จะทำเว็บแนววาไรตี้ ก็จัดการเช่า VPS หรือซื้อเซิฟเวอร์เผื่อทราฟฟิกไว้เลย จริงๆ ก็ไม่ผิดนะครับ แต่หากให้ผมแนะนำ เอาโฮสธรรมดาก่อนจะดีกว่าครับ เพราะหากคนเข้าเยอะเมื่อไหร่ ก็ไม่ต้องกลุ้มใจไป พี่ๆในไทยเสียว ก็พร้อมจะบริการ VPS กันเยอะเลยครับ (มีทั้งดีและไม่ดี เลือกกันเองนะ) ส่วนตัวแล้วเลือกใช้บริการของคนไทยหมดเลยครับ ไม่ว่าจะโดเมน หรือ โฮส และ VPS จ่ายแพงกว่านิดหน่อย ก็เอาเหอะครับ ช่วยๆกัน ก็มีข้อดีหลายอย่างนะ ติดต่อง่าย สำหรับมือใหม่แล้วหละก็ สำคัญเลยทีเดียว แต่หากเทพแล้ว อันนี้ผมไม่ขอกล่าวถึงนะ ^^

4. ภาษา - "พูดได้ ใช่ว่าจะพูดเป็น อ่านได้ ใช่ว่าจะอ่านเป็น เขียนได้ ใช่ว่า จะเขียนเป็น" ขอฝากประโยคนี้ไว้นิดนึง สำหรับคนที่ทำเว็บไทย การเรียนสมัยนี้ มองข้ามภาษาไทยเป็นอย่างมาก บางสาขาวิชา ถึงกับตัดวิชาภาษาไทยออกจากหลักสูตร อันที่จริงแล้ว ภาษาไทยสำคัญมากกับชีวิตของคนไทยเรา การเขียนเว็บ มันก็คล้ายๆกับเขียนหนังสือหละครับ เขียนอย่างไรจึงน่าสนใจ บทความเรื่องเดียวกัน แต่อ่านแล้วอาจให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป อ่านแล้วเบื่อ หรือ อ่านแล้วสนุก ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ ว่าเว็บของคุณจะเกิดหรือไม่ การที่จะทำให้ผู้อ่าน รู้สึกพึงพอใจ และอยากติดตามผลงานของเราอยู่เสมอ การเขียนที่ดี เกิดจากการอ่านมากๆ หากคุณไม่เคยอ่านผลงานเขียนของผู้อื่นเลย ความรู้ที่มีในเรื่องดังกล่าวอาจไม่แน่นนัก และ เขียนไม่ออก อาจรวมถึงการอ่านหนังสือแนวอื่นๆด้วย เพราะจะได้แนวทางการเขียนที่เยอะขึ้น ส่วนนี้ผมไม่ขอนับรวมสำหรับมืออาชีพที่มีเงินทุนจ้างเขียนบทความแล้วนะครับ ส่วนนั้น พี่ๆ เค้าไปไกลแล้วครับ อาจไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาตรงจุดนี้ นั่งนับเงินสบายใจละ สำหรับตัวผมเอง ทุกวันนี้ ผมก็ยังคงนั่งเขียนบทความเองอยู่ทุกวัน ผมมองว่าการเขียนมันก็คือศิลปะอย่างหนึ่ง เราอยากจะถ่ายทอดอะไรลงไป อยากให้ผู้อ่าน อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร เราควบคุมได้ ผมเขียนบทความบางครั้ง ผมไม่ได้สนองความต้องการของผู้อ่านด้วยซ้ำ แต่สนองความต้องการของตนเองนี่หละ ว่าเราอยากผลักดันเรื่องใด ที่จะทำให้สังคมดีขึ้นได้บ้าง อันนี้คือโจทย์ที่ผมจะต้องตั้งไว้อยู่เสมอ ฝึกบ่อยๆ มันก็จะไหลไปได้เองครับ เผลอๆไป อนาคตคุณอาจได้เป็นนักเขียนมืออาชีพ ขายทั้งหนังสือ ขายทั้งโฆษณาเว็บก็เป็นไปได้เนอะ

"อย่าลืมว่า อาชีพนี้ เป็นอาชีพที่ขายเนื้อหา เป็นหลัก ไม่ว่าจะอยู่ในสื่อชนิดใด เนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเว็บมาสเตอร์ครับ และสำคัญกับผู้ลงโฆษณา Google Adwords หากเว็บมาสเตอร์ไทย ทำเนื้อหาดีๆ ผู้ลงโฆษณาก็พึงพอใจ และส่งผลให้ มีการแข่งขันที่สูงขึ้น อนาคต ค่าคลิกเว็บไทยก็จะแพงขึ้นตามมาแน่นอนครับ"

5. อัพเดท - ในระยะช่วงแรก จำเป็นต้องอัพเดทบทความอยู่เสมอ ผมแนะนำให้ทำวันละ 2 บทความ หรืออาจมากกว่านี้ก็เป็นการดีครับ อัพเดทไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ อย่าเพิ่งรีบร้อนครับ คิดซะว่า ช่วงนี้เป็นช่วงซ้อมมือแล้วกัน ต้องดูปัจจัยโครงสร้างเว็บเป็นหลักด้วย หากซื้อสคริปต์ที่แบ่งหมวดเยอะๆ ก็อาจต้องตัดโค้ดบางส่วนออกไปก่อน มิเช่นนั้นเว็บไซต์คุณจะดูโล่งในช่วงแรกๆ รอให้เนื้อหาเยอะๆ ค่อยเพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนขยายใหม่ไปเรื่อยๆได้ครับ ผมคิดเอาเองว่า Google น่าจะมองความสมบูรณ์ของเว็บไซต์ด้วย หากเว็บดูโล่งๆ ผู้ลงโฆษณาก็อาจไม่ชอบใจเอาได้ ก็ต้องอิงประโยชน์ซึ่งกันและกัน หากวันไหนไม่ว่างจริงๆ ก็สามารถหยุดอัพได้ครับ แต่อย่าหยุดยาวหลายวันเกิน ทำให้เป็นธรรมชาติของชีวิตประจำวันเรา เป็นการดีที่สุดครับ แต่ต้องมีวินัยด้วย หากคุณทำตรงจุดนี้ยังไม่ได้ ต่อไปคุณก็บริหารเว็บไซต์ได้ยากครับ

6. พร้อมแล้วลุย - เมื่อครบประมาณ 2 สัปดาห์อาจมากกว่านี้ก็แล้วแต่บุคคลไปนะครับ บางท่านอาจต้องปรับปรุงสคริปต์บ้าง หรืออื่นๆ ก็ดูตามความเหมาะสม คิดง่ายๆเลยว่า หากคุณเป็นผู้เข้าชมเว็บไซต์ แล้วมาเจอเว็บดังกล่าว คุณจะพึงพอใจมากน้อยแค่ไหน เข้ามาแล้วกดปิดเลย หรือดูผ่านๆ หรือเข้ามาแล้ว นั่งอ่านไปเรื่อยๆ เพลินดี เป็นผู้ตรวจสอบเองก่อนได้ก็จะดีมากครับ หากคำตอบสะท้อนจากในใจว่า ก็งั้นๆ ยังไม่น่าสนใจ ให้หยุดรอก่อน ปรับปรุงใหม่ให้ได้ดั่งใจก่อน แต่หากคิดว่า ประทับใจแล้ว ทำการสมัครได้เลยครับ (ในส่วนขั้นตอนการสมัคร ผมไม่ขอกล่าวถึงนะครับ)

7. อัพเดทต่อ - หลายๆท่านเข้าใจผิด ว่าต้องรอ สำหรับผม ผมไม่เรียกว่ารอนะ แต่เป็นการพร้อมทำงานต่อ ก่อนสมัครอัพเดทอย่างไร ก็อัพเดทอย่างนั้น อย่างสม่ำเสมอ หรืออาจจะมากกว่าเดิมก็เป็นการดีครับ ระหว่างนี้ เว็บไซต์คุณก็ทยอย index ไปด้วยแล้วหละ แต่ไม่ต้องดีใจไป มันไม่ได้อยู่หน้า 1 หน้า 2 แน่นอนครับ ^^ ยกเว้นคีย์แปลกๆ น้องใหม่ต้องใจเย็น อัพเดทไปเล่นๆ ก่อน ค่อยว่ากัน โดยทั่วไป Google จะตอบกลับมา ไม่เกิน 2 สัปดาห์ครับ บางท่านอาจแค่ 1-2 วันก็มีครับ อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างนะ ส่วนนี้ผมก็ไม่สามารถคาดเดาเองได้ แน่นอนว่า หากผลงานคุณดี ถูกต้องตามนโยบาย ก็พร้อมที่จะรับข่าวดี เป็นเพื่อนร่วมงานกับ Google ได้เลยครับ เมื่อผ่านแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับลวดลายฝีมือแต่ละบุคคลแล้วหละครับ

สำหรับ 7 ขั้นตอนนี้ เหมาะสมกับมือใหม่นะครับ และเป็นแนวทางที่ไว้สำหรับทำเงินกับเว็บไซต์นั้นๆเลย นั่นคือ อยากทำเว็บอะไร ก็ใช้เว็บไซต์ดังกล่าวสมัครเลย หากผ่านก็ทำต่อยาว หากไม่ผ่าน ก็ได้รู้กันตั้งแต่แรก จะได้ไม่มาเจ็บปวดกันตอนหลัง แน่นอนว่า เว็บไซต์ของคุณก่อนจะผ่าน ทางทีมงาน Google ได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หลังจากผ่านแล้ว หากเนื้อหาของคุณยังคงแนวทางเดิม และคุณไม่โกงคลิก หรือทำผิดกฏข้ออื่นๆ ผมมั่นใจว่า Google ไม่มีทางแบนเว็บไซต์ หรือ ID คุณแน่นอนครับ ถึงแม้ผมจะเคยโดนแบนมาแล้ว 2 เว็บไซต์ แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นใน Google ครับ เพราะสองเว็บที่ผมทำมานั้น มันก็มีแนวโน้มที่อาจส่งผลต่อการละเมิดนโยบาย Google Adsense ได้เช่นกัน ก็ยอมรับกันไป ยังดีที่ยังให้โอกาสในก้าวต่อไป

 หากท่านใดทำจนร่ำรวยกันไปแล้ว อย่าลืม กลับคืนสู่สามัญ เราเกิดมาก็ตัวเปล่า กลับไปก็ตัวเปล่า นำเงินที่ได้ส่วนหนึ่ง ช่วยเหลือสังคมบ้าง ทำบุญกันบ้าง มีน้อยก็ให้น้อยได้ครับ ชาติหน้ามีจริงมั้ย หรือจะเป็นเช่นไรก็มิอาจทราบได้ แต่หากเราสร้างบุญสร้างกุศล เตรียมความพร้อมไว้ก่อน ผมคิดว่า ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหายอะไร ดีกว่าจากโลกนี้ไปแบบเสี่ยงๆ ผมเชื่อว่า คนเราเกิดมาไม่ได้มาเพื่อชดใช้กรรมนะ แต่เชื่อว่า เกิดมาเพื่อมีโอกาสได้สร้างบุญ สร้างกุศลกันครับ ขอจบบทความ การสมัคร Google Adsense ไว้เพียงเท่านี้ หวังว่า คงมีประโยชน์บ้างเนอะ

ปล.หากพิมพ์ส่วนใดผิดไป หรืออ่านงงๆ ก็ให้เข้าใจไว้ว่า ผมพิมพ์ตอน 6 โมงเช้าและเริ่มง่วงมากละครับ อาจมีเบลอๆนะ อิอิ


http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,256666.0.html

Posted on 02:49 by Unknown

No comments

ไปที่ BLOGGER



เมื่อ ล็อกอินเข้ามาจะเจอหน้าแบบนี้นะ



บาง
บางที สำหรับคนที่สมครแลเวใช้งานครั้งแรก อาจจะมีการกรอก เบอร์มือถือ เพื่อส่งรหัสยืนยันการทำบล็อกก็อย่าตกใจ
ทำตามที่มันบอกไปเลยคับ


ต่อกันเลย






คลิกเข้าไปก็จะได้ภาพมาดังนี้

 






                                                                     





เมื่อเลือกภาพได้แล้ว คลิกที่ เสร็จสิ้น


ตัวเอย่าง ก็จะได้ภาพพื้นหลังตามที่เราต้องการ


เสร็จแล้วเราสามารถมาเลือกรูปแบบ ของ หน้าบล็อกเรา


ให้เราลองเลือกดูเรื่อยๆนะครับ อันไหนถูกใจ ก็นำมาใช้กับบล็อกเรย
ซึ่งพอเราเลือก ก็จะได้หน้าตาออกมาดังนี้


สำหรับการทำ หัวเรื่องหรือ เฮดดเดอร์นั้นก็ไม่ยาก
(กลับไปที่ เมนูออกแบบ ดูที่มันเขียนวว่า ส่วนหัว  คลิกแก้ไ)



เราก็จะได้เฮดเดอร์ตกแต่งให้กะบล็อกของเรา
จากกนั้น ถ้าเราต้องการ ใส่โค้ดของตกแต่งละก็ ง่ายๆครับ



พอบันทึกเสร็จ เราก็จะได้ ไอเทม เสริมบล็อกของเรา
ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา หรือ ปฏิธิน หรือรูปภาพ




ซึ่งเราสามารถใส่ ส่วนประกอบของบล็อกเราได้อีก ซึ่งมีให้เลือก









เห็นไหมล่ะครับง่ายนิดเดียว ถ้าใครไม่เข้าใจอะไรตรงไหน ถามได้นะคับยินดีช่วย และ หาคำตอบให้ ^^

แถม ๆ เมื่อเราสมัคร Gmail แล้ว
เราก็จะมี คลังเก็บภาพขนาดใหญ่ด้วยนะ
ขั้นตอนการเก็บภาพหรือฝากรูปไว้ในเว็บทำได้ดังนี้















เมื่อเสร็จแล้วเราก็จะพบว่า รุปนั้น อยู่ในอัลบัมรูปน่ะเองง เหนไหมล่ะ สมัคร Gmail อันเดียวแต่ทำได้ตั้งหลายอย่างเลย ^^

BLOGGER ผม แอ๊ดมาได้นะคร้าบ
มี2 อัน
อันที่ 1
อันที่ 2
ปล.บล็อกผมยังไม่มีอะไรเรย 555


อันนี้ เว็บ ของแต่ง บล็อกนะคร้าบ
1. เว็บ โค้ด นาฬิกา คลิก
 
2. สอนแต่งบล็อกเพิ่มเติม คลิก
3.โค้ด แต่งบล็อกเพิ่มเติม คลิก
4.ของจุกจิกน่ารัก ไว้แต่งบล็อก คลิก

ส่วนเพื่อน ถ้าเกิดเปลี่ยนใจ ขี้เกียจแต่งบล็อก
เราเอาวิธี แต่งง่ายที่สุดมาเรย
นั่นคือใส่โค้ด
 templates
ให้เซิจ หา คำว่า free templates ในกูเกิ้ลได้เลย
จะขึ้นมาเยอะมากๆ ให้เพื่อนๆเลือกโหลด
พอเราโหลดเสร็จ
ก็เข้าที่การออกแบบเหมือนเดิม




http://www.finalsense.com/services/blog_templates/image/besmellah-template.jpg
เสร็จแล้วก็จะได้ หน้าแม่แบบที่สวยๆคร้าบ โดยที่ไม่ต้อลลงมือทำเอง 55

เป็นอันว่า จบการสอนของวันนี้ 555


http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2017167

Posted on 02:45 by Unknown

No comments